สำหรับคนรักรถกระบะ การตกแต่งรถกระบะของเราให้ดูเท่ก็เป็นงานอดิเรกที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ แต่การจะแต่งรถกระบะให้เท่ มันก็ต้องแต่งให้ถูกต้องตามที่กฎหมายไทยระบุด้วย เพราะงั้นวันนี้เรามีวิธีเลือก ชุดเเต่งรถกระบะ และการแต่งรถกระบะแบบไหนถึงไม่โดนตำรวจเขียนใบสั่ง อยากรู้ล่ะสิว่ามีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
ชุดแต่งระบะ และการแต่งรถกระบะแบบไหนถึงเรียกว่าผิดกฎหมาย
- ใช้ป้ายทะเบียนยาว
การเอาป้ายทะเบียนที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบกมาตัดอัดกรอบใหม่ ซึ่งมันเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะคะ โดนข้อหาดัดแปลงสภาพป้ายทะเบียน โดนปรับไม่เกิน 2,000 บาท แล้วถ้าหากติดป้ายเอียง มองไม่ชัด มีอะไรมาทับปิดตัวเลข ทำให้ป้ายทะเบียนไม่ชัด หรือวางไว้หน้ากระจกมีสิทธิ์โดนปรับ 500 บาท
2. โหลดเตี้ย
รถกระบะหลายคันชอบโหลดเตี้ยมากๆ ก็ผิดกฎหมายนะคะ โดยในกฎหมายไทยระบุไว้ว่า สามารถโหลดต่ำได้แต่ต้องวัดจากกึ่งกลางไฟหน้า กับระดับพื้นถนนจะต้องมีระยะไม่ต่ำกว่า 40 ซม.
หากต่ำกว่านั้นถือว่าผิดกฎหมาย หากไฟหน้าสูง แต่ตัวรถใส่สปอยเลอร์จนแทบลากพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเป็นผู้พิจารณาว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือสร้างความเดือดร้อนให้ตนเอง และผู้อื่นหรือไม่
3. บิ๊กฟุต
พวกกระบะออฟโรคที่สูงกว่ารถเก๋งทั่วไป ตามพระราชบัญญัติรถยนตร์ระบุว่าวัดจากระดับกึ่งกลางไฟหน้า กับพื้นถนนจะต้องไม่สูงกว่า 135 ซม. แต่ถ้าหากไฟหน้าไม่เกิน แต่ตัวรถสูงมาก มีการดัดแปลงสภาพมาก ทั้งเสริม ทั้งยกตัวถัง การปรับแต่งรถดังกล่าวต้องมีหนังสือรับรองจากวิศวะรองรับ และต้องมีการแจ้งกับการกรมการขนส่งทางบก ว่ามีการดัดแปลงเพื่อใช้งาน
4. ไฟหน้าหลากสี
ไฟขาว ไฟแนวซิ่ง โคมดำ โคมขาว พ่นไฟโคมไฟหน้า-หลัง ถึงตอนนี้จะยังไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ติดแล้วลำแสงจะต้องตกเป็นเเนวระนาบไม่น้อยกว่า 2 องศา ต้องไม่เบนขวาถึงจะเรียกว่าผ่าน
ส่วนสีไฟหน้ารถ กรมฯกำหนดเอาไว้ 2 สีด้วยกัน คือ สีเหลืองอ่อน และสีขาว ถ้าเป็นสีอื่นถือว่าผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติรถยนต์ปีพ.ศ. 2522 มาตรา 12 โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนไฟเบรกก็ต้องเป็นสีแดง ไฟเลี้ยวก็ต้องเป็นสีเหลืองอำพัน ไฟส่องป้ายทะเบียนต้องเป็นสีขาว มองเห็นป้ายได้ระยะไม่น้อยกว่า 20 ม.
5. ขยายเครื่องติดเทอร์โบ
การขยายความจุ ยืดข้อ เสริมเครื่องสูบ เปลี่ยนเทอร์โบใหญ่ โมกล่องถึง 500-1,000 แรงม้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดค่ะ แต่อุปกรณ์ในห้องเครื่องต้องหนาแน่น ปลอดภัย อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่จะต้องวัดด้วยผลการตรวจควันดำ และค่า CO กับค่า HC เป็นตัวกำหนด (CO ค่าคาร์บอนไดออกไซด์, HC ค่าไฮโดรคาร์บอน)
โดยรถที่ทำการจดทะเบียนก่อน 1 พ.ค. 2536 ต้องวัดค่า CO ไม่เกิน 4.5 เปอร์เซ็นต์ แค่ HC ไม่เกิน 600 PPM ส่วนรถที่จดทะเบียนหลัง 1 พ.ค. 2536 ต้องวัดค่า CO ไม่เกิน 1.5 เปอร์เซ็นต์ และ HC ไม่เกิน 200 PPM
หากคุณเป็นคนชอบรถกระบะ รักในการแต่งรถ ไม่ว่าจะแต่งแบบไหนก็ตาม นอกจากจะเเต่งให้รถของเราเท่แล้ว อีกอย่างที่คุณควรให้ความสำคัญคือ การทำประกันชั้น 1 รถยนต์ เพื่อคุ้มครองหากเกิดอันตราย ซึ่งประกันชั้น 1 รถยนต์นั้นครอบคลุมทั้งรถกระบะของคุณและส่วนตกแต่งรถอีกด้วย